ชมวีดีโอคลิปไฮไลท์การแข่งขัน คลิ๊กที่นี่
สนาม คราเวน ค็อตเตจ, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 21,862 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 21.00 น. วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2548
ผู้ตัดสิน โฮเวิร์ด เวบบ์
ไม่มีการกล่าวถึงเรื่อง ‘ฟุตบอลที่น่าเบื่อ’ ที่สนามคราเวน ค็อตเตจ เมื่อวันเสาร์ โดยทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และฟูแล่ม แสดงการเล่นที่เอ็นเตอร์เทนผู้ชมอย่างมากในเกมที่ขายตั๋วเข้าชมได้หมดเกลี้ยง
รุด ฟาน นิสเตลรอย และเวย์น รูนี่ย์ ยังคงทำประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ชิพ โดยช่วยกันทำประตูในเกมที่คว้าชัยชนะไปได้ 3-2 ที่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ ยอดดาวยิงดัตช์แมนทำ 2 ประตู โดย 1 ประตูมาจากลูกจุดโทษ ในขณะที่รูนี่ย์ ก็มีชื่อเป็นผู้ทำประตูด้วย
มันเป็นเกมฟุตบอลที่ดีที่สุดเกมหนึ่งทีเดียว เท่าที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่นมาตั้งแต่เปิดฤดูกาลเมื่อ 6 สัปดาห์ที่แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เรื่องหลักๆ ที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พูดถึงอย่างมากในการเดินทางลงใต้ไปเยือนเมืองหลวงครั้งนี้ก็คือ การเปิดเผยของรอย คีน กัปตันทีม ที่ตั้งใจจะออกจากทีมหลังจากจบฤดูกาลนี้ มีการกล่าวถึงเรื่องนี้ในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และแฟนบอลแสดงทรรศนะในเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีชื่อของมิเกล ซิลแวสตร์ กลับมาลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก หลังจากกองหลังทีมชาติฝรั่งเศสผู้นี้ไม่ได้ลงเล่นในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เอาชนะเบนฟิก้า ไปได้เมื่อวันพุธเวย์น รูนี่ย์ ก็กลับมาลงเล่นเช่นกัน หลังจากต้องติดโทษห้ามแข่งในแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นนัดแรกจากทั้งหมด 2 นัด ปาร์ค จีซุง และดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ได้ลงเล่นแทนที่ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และพอล สโคลส์ ในรายชื่อ 11 ตัวจริง ในขณะที่ไรอัน กิ๊กส์ ได้เป็นกัปตันทีมในการลงสนามครั้งนี้
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาเยือนสนามคราเวน ค็อตเตจ เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ย้ายไปสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ ตำแหน่งของเขาในทีมฟูแล่ม ตกเป็นของมาร์ค ครอสสลี่ย์ ซึ่งปีศาจแดงเคยยืมตัวมาเล่นช่วงสั้นๆ ในปลายทศวรรษ 1980 โดยตอนนั้นเขาเป็นผู้เล่นของทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แฟนบอลฟูแล่ม ให้การต้อนรับฟาน เดอร์ ซาร์ อย่างอบอุ่นด้วยการร้องเรียกชื่อของเขาก่อนเริ่มเกม
เริ่มเกมไปได้เพียงไม่ถึง 90 วินาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ต้องเสียประตูไปก่อน มันเป็นการบุกครั้งแรกของฟูแล่ม และมันจบลงด้วยการที่คอลลินส์ จอห์น ส่งบอลผ่านตัวฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งรวมตัวกันอยู่ด้านหลังประตูฝั่งนั้นแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองที่เห็นกองหน้าชาวไลบีเรียทิ่มบอลเข้าประตูไป
ไรอัน กิ๊กส์ กัปตันทีม ทำอย่างดีที่สุดเพื่อกระตุ้นลูกทีมให้กลับมาฮึดสู้ตีเสมอให้ได้ เขาเลี้ยงบอลลุยผ่านกองหลังฟูแล่ม ไปหลายๆ ครั้ง แต่เมื่อไปถึงกรอบเขตโทษของเจ้าบ้าน บอลก็ยังไปไม่ถึงกองหน้าอยู่ดี
มันเป็นการเริ่มต้นที่น่าตื่นเต้น แต่มันก็ยังเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา ปาร์ค จีซุง นักเตะชาวเกาหลีใต้ ถือเป็นทีเด็ดช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพลิกกลับขึ้นมานำได้สำเร็จภายในระยะเวลา 2 นาที ในนาทีที่ 16 เขาลากเลื้อยตะลุยไปข้างหน้าแหวกผ่านเข้าไปในกรอบเขตโทษของฟูแล่ม และถูกสกัดล้มลงโดย มอริทซ์ โวลซ์ กองหลังเจ้าถิ่น โฮเวิร์ด เวบบ์ ผู้ตัดสิน ไม่รีรอชี้เป็นลูกจุดโทษทันที และรุด ฟาน นิสเตลรอย ก็ไม่ทำให้แฟนบอลปิศาจแดงผิดหวัง ยิงลูกจุดโทษผ่านมือครอสสลี่ย์ เข้าไปตุงตาข่าย ทำให้ทีมตีเสมอได้สำเร็จ
เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็พลิกกลับขึ้นมานำ โดยรูนี่ย์ เป็นผู้ทำประตูที่ 2 ให้กับทีมอย่างงดงาม จากการผ่านบอลทะลุช่องของปาร์ค มันเป็นการทำเกมที่สวยงามมาก และทำให้เกมเปิดแลกกันสนุกมากขึ้นตลอดครึ่งแรก
แต่ฟูแล่ม ก็กลับมาทวงคืนได้สำเร็จในนาทีที่ 28 เมื่อเคลาส์ เยนเซ่น ได้ยิงลูกฟรีคิกโค้งจากฝั่งซ้ายเข้ามา บอลลอยไม่โดนตัวใครเลยในกรอบเขตโทษ โดยริโอ เฟอร์ดินานด์ แหย่เท้าจะสกัดบอล แต่ดึงเท้ากลับ ทำให้เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ กะจังหวะผิด บอลเลยลอยโค้งเข้าประตูไปฟูแล่ม ไล่ตีเสมอมาเป็น 2-2
เจ้าบ้านพยายามเปิดเกมบุกมากขึ้น และมีโอกาสทำประตูในหลายๆ จังหวะ คริส โคลแมน ผู้จัดการทีม เตรียมทีมมาได้เป็นอย่างดีสตีด มาลบร็องค์ เกือบจะทำให้ ฟูแล่ม กลับขึ้นนำอีกครั้งจากลูกยิงไกลในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก มันเป็นลูกยิงที่ดี แต่ก็ยังไม่ผ่านมือฟาน เดอร์ ซาร์
มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าประตูต่อไปจะเป็นของใคร และเพียงไม่กี่วินาทีก่อนจบครึ่งแรก เราก็ได้คำตอบ เมื่อฟาน นิสเตลรอย ที่ไม่มีใครตามประกบได้บอลหน้าประตูโล่งๆ จากการผ่านบอลด้วยความใจกว้างสุดๆ ของปาร์ค ซึ่งเลี้ยงบอลตะลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษ ผ่านมือครอสสลี่ย์ ผู้รักษาประตูไปแล้ว แต่มุมยิงมีน้อย จึงผ่านบอลไปให้กับฟาน นิสเตลรอย และดาวยิงดัตช์แมนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาแตะบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสบาย ทำให้ทีมออกนำอีกครั้งเป็น 3-2
ทั้ง 2 ทีมได้รับเสียงเชียร์อย่างล้นหลาม เมื่อเดินออกจากสนามไปในช่วงพักครึ่ง ซึ่งก็สมควรได้รับแล้ว
รูนี่ย์ น่าจะทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่างในนาทีที่ 48 โดยเหลือเพียง ครอสสลี่ย์ เท่านั้นที่ขวางอยู่ แต่เขายิงออกเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย
ฝนตกหนักขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นครึ่งหลัง แต่ไม่ได้ทำให้ความกระตือรือร้นและความขยันขันแข็งของนักเตะลดลงเลย นี่เป็นเกมที่น่าสนุกสนานที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่าที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน
ปาปา บูบา ดิยอฟ ซึ่งเคยยิงตีเสมอให้กับเจ้าถิ่นในช่วงท้ายเกมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เกือบจะทำได้อีกครั้งจากลูกยิงไกล ซึ่งพุ่งหลุดกรอบออกไปเพียงไม่กี่นิ้ว
จบเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาคว้าชัยชนะได้ที่สนามคราเวน ค็อตเตจ ด้วยสกอร์ 3-2 (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ฟูแล่ม
มาร์ค ครอสสลี่ย์ 1
หลุยส์ บัว มอร์เต้ 11 ( น. 51)
คาร์ลอส โบคาเนกร้า 3
อแล็ง โกม่า 24
นิคลาส เยนเซ่น 33
มอริทซ์ โวลซ์ 2
ปาป้า บูบา ดิยอฟ 14 ( น. 60)
เคลาส์ เยนเซ่น 8 ( น. 28)
สตีด มาลบร็องค์ 4
คอลลินส์ จอห์น 15 ( น. 2)
ไบรอัน แม็คไบรด์ 20
สำรอง
โทนี่ วอร์เนอร์ 30
ดีน ลีคอค 22
อาห์มาด เอลริช 18
เฮดาร์ เฮลกูสัน 10 น. 72 ไบรอัน แม็คไบรด์ 20
โทมัสซ์ ราดซินสกี้ 13 น. 77 คอลลินส์ จอห์น 15
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
ไรอัน กิ๊กส์ 11
จอห์น โอเชีย 22
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24 ( น. 27)
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
ปาร์ค จีซุง 13
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 18)
อลัน สมิธ 14
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10 ( น. 17(จุดโทษ), น. 45)
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ 26 น. 57 คีแรน ริชาร์ดสัน 23
เชราร์ด ปิเก้ 28
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 น. 77 ไรอัน กิ๊กส์ 11
พอล สโคลส์ 18 น. 84 รุด ฟาน นิสเตลรอย 10
สถิติของเกม
ฟูแล่ม ยิงประตู 2, ลูกยิงตรงกรอบ 6, ลูกยิงหลุดกรอบ 5, ลูกยิงโดนบล็อค 1, เตะมุม 3, ฟาวล์ 20, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 2, การครองบอล 49 %
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงประตู 3, ลูกยิงตรงกรอบ 8, ลูกยิงหลุดกรอบ 4, เตะมุม 9, ฟาวล์ 11, ล้ำหน้า 8, ใบเหลือง 1, การครองบอล 51%
คะแนนความสามารถ
ฟูแล่ม มาร์ค ครอสสลี่ย์ 6, มอริทซ์ โวลซ์ 7, คาร์ลอส โบคาเนกร้า 6, อแล็ง โกม่า 5, นิคลาส เยนเซ่น 5, หลุยส์ บัว มอร์เต้ 5, สตีด มาลบล็องค์ 7, เคลาส์ เยนเซ่น 7, ปาป้า บูบา ดิยอฟ 8, ไบรอัน แม็คไบรด์ 6, คอลลินส์ จอห์น 6, เฮดาร์ เฮลกูสัน (สำรอง) 5, โทมัสซ์ ราดซินสกี้ (สำรอง) 6
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, จอห์น โอเชีย 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5, มิเกล ซิลแวสตร์ 6, ไรอัน กิ๊กส์ 8, คีแรน ริชาร์ดสัน 7, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 6, อลัน สมิธ 7, เวย์น รูนี่ย์ 7, รุด ฟาน นิสเตลรอย 7, ปาร์ค จีซุง 9, ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ (สำรอง) 5, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (สำรอง) 5
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ปาร์ค จีซุง (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
Por